หลาย คนมักจะกลัวว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานเป็นประจำจะโดนมัลแวร์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่เฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเป้าหมายเท่านั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็ตกเป็นเป้าเช่นกัน
เมื่อ ปีที่ผ่านมาอุกรณ์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้เริ่มออกมาวางขายเยอะขึ้น นับตั้งแต่แว่นตา แปรงสีฟัน ตู้เย็น และของใช้อีกเพียบ อย่างเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลก็เพิ่งซื้อกิจการของ Nest อุปกรณ์วัดอุณหภูมิที่คาดว่าน่าจะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบบ้านอัจฉริยะของ กูเกิล ทางด้าน IDC ก็ออกมาพยากรณ์ว่าอุปกรณ์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านชิ้นภายในปี 2020
ล่า สุด Proofpoint บริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตพบสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าภัยคุกคามไซ เบอร์ระดับโลก (global cyberattack) มีการจู่โจมแก็ดเจ็ตมากกว่าวันละ 100,000 ชิ้น สิ่งของที่โดนโจมตีประกอบไปด้วย เราท์เตอร์, ทีวีที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้ และล่าสุดนี้ก็คือตู้เย็นอัจฉริยะ นี่ถือเป็นภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ ต่ออินเตอร์เน็ตได้ หรือที่ต่างประเทศเรียกข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ว่า ”Internet of Things”
หลัก ฐานที่พิสูจน์ได้ก็คือระหว่างวันที่ 23 ธันวาคมถึงวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา มีอีเมลที่แฝงด้วยมัลแวร์ส่งไปหาบุคคลและหน่วยงานธุรกิจทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เฉพาะในเว็บของ Proofpoint ก็ได้รับอีเมลมากกว่า 750,000 ฉบับ ซึ่งถูกส่งออกมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้านับ 100,000 เครื่อง ที่ถูกสั่งงานโดย “thingbots,” หรือโปรแรกมหุ่นยนต์ที่ถูกติดตั้งจากระยะไกลลงบนเครื่องใช้ยุคดิจิตอลเหล่า นี้ ถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเหยื่อที่ตกเป็นเป้าหมายเหล่านี้ ถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวไปได้รึไม่
Bot-nets กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญ และการปรากฎตัวของ thingbots ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก เพราะระบบป้องกันของอุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าค่อนข้างแย่ แถมผู้บริโภคก็ยังไม่มีวิธีตรวจจับหรือแก้ปัญหามัลแวร์เหล่านี้ เพราะไม่มีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ เหล่าแฮคเกอร์รู้ถึงจุดอ่อนเหล่านี้ดี ปริมาณการแฮกก็เลยยิ่งสูงขึ้นตามจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้