Daily Archives: 12/09/2013

ป่าไม้พิษณุโลกยึดสวนยางพารานายทุนดังชัยนาท 2 พันไร่รุกป่าสงวน

นายธนัช เนมีย์  ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 (ศปป.4) กอ.รมน. พ.ต.ท.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง  ผบ.ร้อย ตชด.313 ค่ายพระยาจักรี พ.ต.ท.ชาญชัย หาแก้ว รองผู้กำกับสืบสวน  สภ. วังทอง สนธิกำลังพร้อมปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจยึดนายทุนรายใหญ่ธุรกิจขนส่ง ชื่อดังภาคกลาง ปลูกยางพาราจำนวน 2,000 ไร่  หลังจากได้รับข้อร้องเรียน กระทั่ง เดินทางไปบ้านตอเรือ หมู่  13 ต. อ,วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจยึดเนื่องจากพื้นที่ปลูกยางพาราอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำ วังทองฝั่งซ้าย

พ.ต.ท.ชาญชัย หาแก้ว รองผู้กำกับสืบสวน  สภ.วังทองพร้อมจนท.ป่าไม้และกอ.รมน.จึงรุดไปที่แคมป์คนงาน  ที่เขียนป้ายระบุ วีรนันท์ พบนายปรีชา จันทร์ครุฑ ซึ่งรับเป็นญาติของ  หจก.ขนส่งชื่อดังภาคกลาง จากนั้นได้ติดต่อโทรศัพท์พร้อมกับเชิญตัวเจ้าของตัวจริงมาพบ แต่ หจก.ดังกล่าวได้ส่ง ตัวแทนจากจังหวัดชัยนาทมาแทน เพื่อมาพบพนักงานสอบสวนพร้อมยื่นหลักฐานให้ ใบ ภ.บ.ท.5 ต่อเจ้าพนักงาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้พานายปรีชา และนายทวี สุกใส  อดีตรองนายกอบต.วังนกแอ่น นำชี้จุดพื้นที่แปลงปลูกยาง พร้อมกำหนดพิกัดค่าจีพีเอส พบว่า พื้นที่ปลูกยางกว่า 705 ไร่ และบางแปลงเคยถูกป่าไม้ตรวจยึดแล้วจำนวน 200 ไร่เศษ  อย่างไรก็ตามนายปรีชา  ให้การการกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านราคาไร่ละ 4 พันกว่าบาท ตั้งแต่ปี 2545 โดยไม่ได้บุกรุกป่า ครองครองที่ดินเพื่อทำธุรกิจยางพาราจำนวน 2,000 ไร่ ส่วนราคาที่ดินที่ปลูกยาพาราแล้วมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าไร่ละ 50,000 บาทขึ้นไป แล้วต่อจำนวนอายุของต้นยางพารา

นอกจากนี้มีรายงานอีกว่า การจับกุมครั้งนี้ ถือว่า เรื่องใหญ่ เนื่องจากไม่ใช่เป็นบุคคล แต่เป็นนิติบุคคล หรือ หจก.ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจวังทอง กำลังแจ้งข้อหาและกล่าวโทษ พร้อมหาตัวผู้กระทำความผิด จึงมีการเชิญตัวแทน หจก.ชื่อดัง มาให้ปากคำและสอบสวน ซึ่งป่าไม้ยืนยันว่า เป็นป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย ยืนยันจะต้องยึดผืนป่า เนื่องจากมีแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ มีพื้นที่บุกรุกจำนวน 1,265 ไร่  อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดโค่นสวนยาพาราทิ้ง เนื่องจากรอผ่านกระบวนการกฎหมายต่อไป

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…

การหาข้อมูลเบื้องต้นของบ้านมือสอง

การเลือกโครงการและราคาบ้านมือสองที่เหมาะสม เมื่อผู้ซื้อได้ทำเลที่ต้องการแล้ว ในแต่ละทำเลจะมีโครงการที่ให้ผู้ซื้อเลือกอย่างมากมายทั้งโครงการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สิ่งที่จะต้องพิจารณาในขั้นตอนต่อไป คือ การพิจารณาเลือกโครงการ และราคาที่เหมาะสม สำหรับโครงการที่ดีนั้นควรจะมีสาธารณูปโภค และสาธารณูปการที่ครบถ้วน เช่น ถนน ท่อระบายน้ำ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายการจัดสรรที่ดินกำหนด หรือไม่ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ หรือสปอร์ตคลับ

มีตรงตามความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ ในบริเวณใกล้เคียงโครงการมีโรงเรียน  โรงพยาบาล หรือศูนย์การค้าหรือไม่ รวมถึง สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในครอบครัวหรือไม่ การพิจารณาทำเลที่ตั้งโครงการหลังจากที่ผู้ซื้อประเมินกำลังเงินของตัวเองอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า รายได้ของครอบครัวเหมาะสมที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในประเภทไหน และสามารถผ่อนส่งได้โดยไม่เดือดร้อน สิ่งแรกที่ผู้ซื้อจะต้องปฏิบัติ คือ การหาข้อมูลเบื้องต้นของบ้านมือสองที่ต้องการซื้อ โดยยึดเอาทำเลที่ตั้งที่สมาชิกในครอบครัวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกที่สุดมาเป็นข้อพิจารณาอันดับแรก ได้แก่ การเดินทางไปสถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของสมาชิกในครอบครัว ระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีระบบขนส่งรองรับ ทำให้การเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจประจำวันสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย

ซึ่งการเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านมือสองจะพิจารณาจากความเหมาะสมกับความต้องการ และวิถีชีวิตของคนในครอบครัวเป็นหลัก สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นผู้ซื้อจะสามารถหาได้จากสื่อหนังสือพิมพ์  หรือนิตยสารที่เกี่ยวกับการซื้อ-ขายบ้าน หรือในเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการข้อมูลการซื้อบ้าน ที่เพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว ในการเลือกหาโครงการในทำเลที่ต้องการ รวมทั้งข้อมูลจากโบร์ชัวร์โฆษณาของโครงการ และงานแสดงบ้านมือสองที่จัดขึ้นในโอกาสต่างๆจะเป็นแหล่งที่ผู้ซื้อสามารถที่จะเก็บข้อมูลโครงการบ้านต่างๆได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว