ปชป.ชี้ขึ้นราคาก๊าซฉุดการเงินชาติสะดุด เตือนรัฐอย่าเพิ่งปรับราคา หวั่นประชาชนเดือดร้อน ขณะที่รมว.พลังงานยันกระทบเฉพาะคนรวยเท่านั้น

นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดกรณีเคยเสนอตั้งญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และกมธ.วิสามัญ พิจารณาแก้ปัญหาค่าครองชีพสูงและมีราคาแพง ซึ่งการแก้ปัญหาต้องบูรณาการหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้กระทบสินค้าอุปโภค-บริโภค

ทั้งนี้ ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบแพง กำลังเป็นการพูดที่ปลายเหตุ แม้บางอย่างจะทำให้ราคาถูกได้ แต่อยากให้ไปดูต้นเหตุสินค้าแพง มาจากต้นทุน เพราะรัฐบาลที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช. ) มีมติขึ้นราคาก๊าชหุงต้ม 50 สต.ต่อกิโลมกรัม มีผลวันที่ 1 ก.ย. ทำให้ผู้บริโภคแบกรับภาระ นอกจากนั้น นโยบายค่าแรง 300 บาท ก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

“อยากให้ชะลอเรื่องการขึ้นราคาก๊าชออกไปก่อน เพราะประชาชนไม่มีเงินพอ และอยากให้รัฐบาลตั้งสติ เพื่อให้ประชาชนอยู่รอดไปอีก 2 ปี อย่าเพิ่มภาระค่าครองชีพที่แพงขึ้น ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ค่าแรง ที่สูงขึ้น ผู้ผลิตไก่อันดับ 2 ของประเทศไทย เจ๊งแล้วจากนโยบาย 300 บาท แม้ลดภาษีให้”นายจุติ กล่าว

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวว่า การใช้ไฟฟ้าพรี จะรับไปพิจารณาว่าให้กลับไปใช้ตามเดิมได้อย่างไร ทั้งนี้ เหตุผลในการเพิ่มค่าไฟฟ้า เนื่องจากประเทศใช้พลังงานแก๊สธรรมชาติ 70% ของประเทศ ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนลง ราคาแก๊สแพงขึ้น ทำให้ค่าไฟฟ้าเปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ยังมีการเรียกร้องไม่ให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งมีไฟฟ้าราคาถูก และให้สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ยิ่งมีพลังงานไฟฟ้าทดแทนมาเท่าไหร่ ค่าไฟก็เป็นภาระที่ต้องแพงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงพยายามเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน หากอนาคตก๊าซในอ่าวไทยหมดลง การซื้อก๊าซจากต่างประเทศ ก็ยิ่งทำให้ค่าไฟแพงขึ้นทวีคูณ ทำให้ความสามารถการแข่งขันระหว่างประเทศ เช่น ส่งออก อุตสาหกรรม ต้นทุนธุรกิจแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ส่วนก๊าซครัวเรือนขึ้นราคาที่เกรงว่าจะกระทบคนจนนั้น ยืนยันว่าขึ้นราคาสำหรับคนรวย และผู้มีรายได้น้อยใช้ก๊าซราคาเดิมทั้งหมด และเหตุผลขึ้นราคา เพราะมีผู้ลักลอบนำก๊าซครัวเรือนมาจำหน่ายในแก๊สรถยนต์

 

แหล่งข่าวจาก posttoday…